Facebook

Jarinee จริงใจสายประกัน

Tiktok

ja_jarinee

Line OA

@jarinee

Youtube

Jarinee จริงใจสายประกัน

โลกยิ่งผันผวนประกันชีวิตยิ่งสำคัญ

Share

ประกันชีวิต

นโยบายขึ้นภาษีและขยายลดหย่อนของทรัมป์สะท้อนวาระ “ผู้มีรายได้สูง” เพื่อหวังกระตุ้นการลงทุนระยะสั้น แต่ ความเสี่ยงสะสมมีมากกว่า ทั้งการเพิ่มหนี้, เงินเฟ้อ, และผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ในขณะที่นโยบายภาษีนำเข้ารุนแรง (เช่น 36–37%) สถานการณ์เป็นการตอกย้ำภาวะลำบากสำหรับประเทศที่พึ่งพาสหรัฐฯ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทยของเรา

ในวันที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่นิ่ง ข่าวสารเรื่องเงินเฟ้อ ภาษีที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่นโยบายการเงินที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ล้วนส่งผลต่อความเป็นอยู่ของเราโดยตรง หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า จะมีอะไรที่มั่นคงจริงๆ ในชีวิตอีกไหม ?

พี่จายืนยันคำตอบว่า… มีค่ะ สิ่งนั้นไม่ใช่ หุ้น ทองคำ หรืออสังหาริมทรัพย์ราคาแพง แต่คือสิ่งที่เรียบง่ายและจริงใจที่สุด… ที่เรียกว่า “ประกันชีวิต”

แม้เศรษฐกิจจะผันผวนจากนโยบายภาษีหรือสถานการณ์โลกแค่ไหน แต่ ระบบประกันชีวิตก็ยังคงเป็น “หลักประกันที่มั่นคง” ที่ช่วยให้ผู้คนไม่ล้มทั้งยืนเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน

5 เหตุผลที่ “ประกันชีวิต” ยังจำเป็น ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร

ประกันชีวิต

1. เพราะชีวิตมีความเสี่ยงเสมอ..

ความเสี่ยงในชีวิตไม่เคยหยุดตามเศรษฐกิจ ต่อให้เศรษฐกิจดีแค่ไหน เราก็ยังอาจล้มป่วย เจ็บหนัก เกิดโรคร้าย อุบัติเหตุหรือเกิดเหตุไม่คาดฝันได้เสมอ

ประกันชีวิตคือ “กันชน” ที่ช่วยดูแลครอบครัวในวันที่เราไม่อยู่ และช่วยให้เราผ่านวันที่ลำบากได้โดยไม่หมดตัว
ไม่ว่าจะภาษีขึ้น ดอกเบี้ยสูง หรือเงินเฟ้อ คนเราก็ยังมีโอกาสเจ็บป่วย เสียชีวิต หรือสูญเสียรายได้อยู่ดี หากเตรียมการวางแผนไว้เท่ากับคำว่า “ป้องกัน” แต่หากไม่ได้เตรียมการอะไรไว้เลยพอเกิดเหตุวิกฤติแล้วไปหาทาง “แก้ไข” ก็อาจจะไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย

2. เพราะระบบสวัสดิการรัฐไม่พอ

สวัสดิการที่มีขีดจำกัดหลายอย่าง รวมถึงมีแต่ความไม่แน่นอน ในหลายประเทศ รวมถึงไทย คนที่ไม่ได้เป็นข้าราชการหรือมีประกันสังคมแบบเต็มที่ จะต้องพึ่งการวางแผนส่วนตัวเป็นหลัก

ประกันชีวิตคือหนึ่งในเครื่องมือวางแผนที่ชัดเจนและยั่งยืนที่สุด

เห็นด้วยไหม กับคำที่ว่าเราคนไทยต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้มากที่สุด เพราะไม่มีใครรับผิดชอบชีวิตเราได้ดีเท่าตัวเราเอง

เราทุกคนจึงต้องรับผิดชอบอนาคตของตัวเองด้วยมือของเราเอง เพื่อไม่เป็นภาระให้คนที่เรารัก หรือใคร ๆ ในวันข้างหน้า

3. เพราะระบบประกันชีวิตช่วยสร้างวินัยทางการเงิน

การมีกรมธรรม์ประกันชีวิตเหมือนบังคับให้เราเก็บออมในระบบ

และไม่ใช้เงินหมดไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น

ใช้หลักเรียบง่าย คือเก็บก่อนใช้บริหารเงินที่เป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดนี้

ให้พอดีตัว เมื่อไหร่ที่เก็บมาก่อนนั่นหมายถึงเราจะใช้จ่ายตามเงินที่เหลือจากเก็บ ชีวิตไม่มีทางติดลบแน่นอน

4. เพราะมันคือการส่งต่อความรัก

เมื่อเราจากไป เงินก้อนจากประกันชีวิตคือสิ่งเดียวที่สามารถส่งความห่วงใยไปถึงคนที่เรารัก หรือส่งถึงมือครอบครัวได้ทันที

ในวันที่เราไม่สามารถอยู่กับคนที่เรารักได้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่ยังสามารถดูแลเขาได้ ก็คือความคุ้มครองที่เราตั้งใจวางไว้ล่วงหน้าแล้ว  มีค่ามหาศาลยิ่งกว่าพินัยกรรมใด ๆ บนโลกใบนี้  เพราะคือเงินสดๆที่ส่งถึงมือทายาทอย่างไร้ความเสี่ยง

5. เพราะความมั่นคงในชีวิตไม่ขึ้นกับเศรษฐกิจ แต่ขึ้นกับการเตรียมตัว

โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว แต่คนที่เตรียมตัวไว้เสมอจะรับมือได้ดีกว่า ประกันชีวิตจึงถูกเรียกว่าเป็นเครื่องมือสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้ชีวิต ใช้เครื่องมือนี้เป็น ก็จะเท่ากับรับมือไหว กับทุกเหตุการณ์ ทุกวิกฤติที่จะเข้ามาในชีวิตได้อย่างสงบนิ่ง

แม้เศรษฐกิจจะผันผวน แต่ใจไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจ

ทำไมประกันชีวิตจึงยังจำเป็น ?? ในวันที่เศรษฐกิจทั้งโลก ดูเปราะบาง เราต่างยิ่งต้องมี “สิ่งที่มั่นคง” สักอย่างไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจและปกป้องอนาคตของตัวเอง ประกันชีวิตไม่ใช่แค่เรื่องของความตาย… แต่มันคือเรื่องของ “คุณค่าชีวิต” คือการยืนยันว่า

วันนี้หากเหน็ดเหนื่อย กับความผันผวน และปั่นป่วนในการแสวงหา พี่จาอยากชวนลองหันกลับมาช้า ๆ แล้วลองใช้วิธีเรียบง่าย ใช้เครื่องมือผ่านระบบประกันชีวิตให้เป็น อะไร ๆ อาจไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้นะคะ

Tags

You May Also Like