อยาก “เก็บตังค์” แต่เงินหายทุกปลายเดือน… ลองสลับเป็น “เก็บก่อนใช้” และให้ ประกันชีวิต เป็นเครื่องมือบังคับตัวเอง ได้ทั้งเก็บตังค์ ความคุ้มครองชีวิต และพิชิตเป้าหมายทางการเงินได้อย่างแน่นอน
ทำไมต้อง “เก็บก่อนใช้”
“เก็บก่อนใช้” เป็นหลักคิดทางการเงินที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังมากค่ะ ข้อดีของการ เก็บก่อนใช้มีมากมาย
1.สร้างวินัยทางการเงิน
เมื่อเราหักเงินออมทันทีที่ได้เงินเข้ามาจะทำให้เกิดนิสัยที่ดีไม่ใช้เงินจนหมดก่อนแล้วค่อยเหลือเก็บ (ซึ่งมักไม่ค่อยเหลือจริง ๆ)
2. ออมได้อย่างต่อเนื่อง
เพราะถูกตั้งเป็นระบบ ไม่ต้องรอให้มี “เงินเหลือ” จึงมั่นใจได้ว่าจะมีเงินเก็บทุกเดือน
3. ลดความเครียดเรื่องการเงิน
มีเงินเก็บไว้เสมอ ทำให้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไม่ต้องกังวลหรือเป็นหนี้ หรือจะหาเงินด่วน ๆ มาจากที่ไหน เพราะมีคลังสำรองให้ตัวเอง
4. สร้างความมั่นคงและโอกาส
เงินเก็บที่สะสมจะต่อยอดไปสู่การลงทุนหรือไว้ใช้ตามเป้าหมายใหญ่ เช่น แผนเกษียณ, กองทุน , ซื้อบ้าน, การศึกษาบุตร
5.ทำให้ “ใช้เงินอย่างรู้คุณค่า”
เมื่อตัดสินใจเก็บไปแล้ว เหลือเท่าไหร่ ? ก็คือเงินที่ใช้ได้จริง ทำให้เราบริหารการใช้เงินได้อย่างมีสติ
ทำไมต้องเก็บผ่าน “ระบบประกันชีวิต”
- เก็บก่อนใช้ (Pay Yourself First) เป็นการบังคับตัวเองมีวินัยในการเก็บเงิน
- เพราะปัจจุบันการชำระเบี้ยประกันชีวิต สามารถหักบัญชีอัตโนมัติหรือหักผ่านบัตรเครดิต ทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
- มีเป้าหมายชัดเจน การทำประกันชีวิต จะมีระยะเวลา/จำนวนเงินรับคืน/บำนาญ/หรือเงินก้อนใหญ่ ถูกระบุชัดเจนในสัญญาแห่งกรมธรรม์
- ได้ “ความคุ้มครองชีวิต” หากระหว่างทาง หากเราไม่ทันถึงเป้าหมาย เงินก้อนนี้ที่มีมูลค่ามากกว่าเงินต้นก็จะถูกส่งให้คนที่เรารักทันที เรียกว่าเป็นการส่งต่อที่ถูกคน ถูกเวลาเลยทีเดียว
- ประกันชีวิตบางแผนยังมีความคุ้มครองกรณีตกเป็นทุพลภาพบริษัทประกันชีวิตจะมีการยกเว้นการชำระเบี้ยและจะทำหน้าที่ชำระเบี้ยแทนไปจนครบสัญญาบนเป้าหมายเก็บเงินยังดำเนินไปเหมือนเดิม
- สิทธิประโยชน์ภาษี เบี้ยประกัน สามารถใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ได้ตามเกณฑ์กฎหมายไว้ได้อีกด้วย
เลือกแผนประกันชีวิตให้ตรงเป้าหมายด้วยเช็คลิสต์ 6 ข้อ
- ระยะเวลาคุ้มครอง/ระยะเวลาชำระเบี้ย
- ตารางผลประโยชน์: เงินคืนระกว่างปี/เงินบำนาญ ได้รับเมื่อไร? เท่าไร?
- เงื่อนไขยกเลิกหรือใช้สิทธิแห่งกรมธรรม์ ไม่ว่าจะเป็นมูลค่าเวนคืน/มูลค่าเงินสำเร็จ/มูลค่าขยายเวลา มีแผนรองรับที่เป็นไปตามความต้องการของเราหรือไม่
- เลือกวางแผนตามเป้าหมาย และความต้องการของเรามากที่สุด
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี เข้าเงื่อนไขหรือไม่ว่า (สอบถามตัวแทน/ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพกรม)
- ระบุ ผู้รับผลประโยชน์ ให้ชัด—หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด สามารถส่งต่อมรดกได้อย่างถูกคน ถูกเวลา
เลือกจาก “เป้าหมาย–ระยะเวลา–สภาพคล่อง”ที่ตอบโจทย์ เป็นหลัก แล้วค่อยเปรียบเทียบผลประโยชน์/เบี้ยประกันชีวิต
ทำไม “ออมผ่านประกัน” ถึง ดีกว่าและแตกต่าง จากการออมทั่วไป

FAQs
A: เริ่มด้วยงบที่ “จ่ายได้สบาย ๆ” ก่อน แล้วเพิ่มเมื่อรายได้โตขึ้น เพื่อให้การวางแผนการเงินเหมาะสมตามช่วงวัย
A: ลงทุนได้ แต่อย่าเททั้งหมด—ใช้ระบบประกันชีวิตเป็น “แกนที่แน่นอน” (คุ้มครอง + รายได้ที่คาดการณ์ได้) ส่วนกองทุนไว้ “โตสู้เงินเฟ้อ”
A: แล้วแต่แบบประกันนั้นๆ และเงื่อนไขของกฎหมายทางภาษี ณ ขณะนั้น ตรวจสอบประกาศล่าสุดหรือให้ที่ปรึกษาช่วยประเมินก่อนซื้อ
A: ดีถ้า “แต่ละฉบับมีหน้าที่ต่างกัน” เช่น สะสมทรัพย์เพื่อเงินก้อนใหญ่รับกลางทาง + บำนาญเพื่อมีรายได้หลังเกษียณ ช่วยกระจายความเสี่ยงและจัดสภาพคล่อง หรือเน้นความคุ้มครองภาระหนี้สินระหว่างทาง